Magsafe คือ อะไร

   Magsafe เป็นเทคโนโลยีชาร์จแบตเตอรี่ของอุปกรณ์ Apple ที่ถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อช่วยป้องกันการเบี่ยงต้นแบตเตอรี่และความเสียหายจากการสะท้อนกระแทก โดยมีการใช้แม่เหล็กแบบเปลี่ยนแปลงไฟฟ้า (inductive charging) เพื่อชาร์จแบตเตอรี่ของ MacBook และ MacBook Pro รุ่นบางรุ่น ในปัจจุบัน Magsafe ได้ถูกนำมาใช้กับอุปกรณ์ iPhone 12 และ 13 ด้วยระบบชาร์จไร้สาย (wireless charging) ที่ใช้แม่เหล็กแบบเดียวกัน เพื่อชาร์จแบตเตอรี่ของ iPhone ได้อย่างปลอดภัยและรวดเร็ว โดยไม่ต้องใช้สายชาร์จเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ นอกจากนี้ Magsafe ยังมีส่วนช่วยสนับสนุนการแนบอุปกรณ์ต่างๆ เช่น สายหูฟังแบบไร้สาย หรือแหล่งจ่ายไฟสำหรับอุปกรณ์อื่นๆ ที่สามารถแนบกับแม่เหล็กของ Magsafe ได้

    Magsafe นั้นมีรูปแบบเป็นแหวนโลหะที่ต่อกับส่วนของอุปกรณ์ Apple ได้ด้วยแรงดึงดูดแม่เหล็ก ทำให้ชาร์จเสร็จสิ้นได้ง่ายรวดเร็วและสามารถถอดแยกออกจากอุปกรณ์ได้โดยไม่ทำให้ส่วนของอุปกรณ์สะท้อนกระแทก ซึ่งช่วยป้องกันการบิดของสายชาร์จ และความเสียหายต่ออุปกรณ์ที่อาจเกิดจากการดึงสายชาร์จออกจากอุปกรณ์อย่างรุนแรง นอกจากนี้ Magsafe ยังมีระบบควบคุมการชาร์จอัจฉริยะที่สามารถปรับปรุงประสิทธิภาพการชาร์จให้เหมาะสมกับแต่ละอุปกรณ์ และช่วยลดการสูญเสียพลังงานจากการเปิด-ปิดไฟชาร์จอัตโนมัติ เพื่อประหยัดพลังงานและอุดมสมบูรณ์แบตเตอรี่ให้มากขึ้น

วิธีใช้งาน magsafe

การใช้งาน Magsafe นั้นมีความปลอดภัยสูงและมีความสะดวกสบายในการใช้งาน ทั้งสำหรับอุปกรณ์ MacBook และ MacBook Pro และอุปกรณ์ iPhone 12 และ 13 ด้วยการชาร์จไร้สาย แนะนำให้ทำตามขั้นตอนการใช้งานตามคำแนะนำเพื่อให้การใช้งานเป็นไปอย่างสะดวกและปลอดภัยอย่างสูง

การใช้งาน Magsafe สำหรับอุปกรณ์ MacBook และ MacBook Pro นั้นเป็นไปอย่างง่ายดาย โดยที่คุณสามารถทำตามขั้นตอนต่อไปนี้ได้:

  1. ต่อ Magsafe กับอุปกรณ์ MacBook หรือ MacBook Pro ของคุณโดยการนำแหวนโลหะของ Magsafe มาวางต่อกับช่องเชื่อมต่อที่อยู่ด้านข้างของอุปกรณ์
  2. หลังจากเชื่อมต่อแล้ว แหวนโลหะของ Magsafe จะถูกดึงดูดไปยังอุปกรณ์ MacBook หรือ MacBook Pro ของคุณ และเชื่อมต่อกับช่องเชื่อมต่ออย่างแน่นหนาแม็กเซฟ
  3. หากการชาร์จถูกต้อง คุณจะเห็นไฟ LED บน Magsafe ติดตั้งอยู่บนอุปกรณ์ MacBook หรือ MacBook Pro ของคุณ เมื่อแบตเตอรี่เต็มแล้ว ไฟ LED จะสีเขียว แต่หากแบตเตอรี่ยังไม่เต็ม ไฟ LED จะสีส้ม
  4. หลังจากชาร์จแบตเตอรี่เสร็จสิ้นแล้ว คุณสามารถถอด Magsafe ออกจากอุปกรณ์ MacBook หรือ MacBook Pro ของคุณได้โดยง่ายๆ โดยการดึงแหวนโลหะของ Magsafe ที่ช่องเชื่อมต่อของอุปกรณ์

สำหรับการใช้งาน Magsafe สำหรับอุปกรณ์ iPhone 12 และ 13 ที่มากับระบบชาร์จไร้สาย คุณสามารถทำตามขั้นตอนต่อไปนี้ได้:

  1. วางอุปกรณ์ iPhone 12 หรือ 13 ของคุณลงบนแผ่นชาร์จไร้สาย Magsafe
  2. แนะนำให้ใช้แท่นชาร์จ Magsafe ที่มากับอุปกรณ์ของคุณเพื่อให้การชาร์จเสร็จสิ้นได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัย หรือสามารถใช้กับแท่นชาร์จไร้สายอื่นๆ ที่รองรับเทคโนโลยี Magsafe ได้เช่นกัน
  3. เมื่อวางอุปกรณ์ iPhone 12 หรือ 13 ลงบนแผ่นชาร์จไร้สาย Magsafe แล้ว อุปกรณ์จะถูกดึงดูดไปยังแผ่นชาร์จด้วยแรงดึงดูดแม่เหล็ก
  4. เมื่อการชาร์จเสร็จสิ้น อุปกรณ์ iPhone 12 หรือ 13 ของคุณจะแสดงการแจ้งเตือนว่าการชาร์จเสร็จสิ้นแล้ว

สามารถชาร์จและใช้งานในเวลาเดียวกันได้ไหม?

สำหรับ Magsafe สำหรับอุปกรณ์ MacBook และ MacBook Pro ที่ใช้ชาร์จแบตเตอรี่โดยตรง ไม่สามารถใช้งานและชาร์จได้พร้อมกันในเวลาเดียวกัน เนื่องจากการใช้งานอุปกรณ์ MacBook หรือ MacBook Pro ในขณะที่กำลังชาร์จอาจทำให้ระบบร้อนขึ้น ซึ่งอาจทำให้เกิดความเสียหายต่ออุปกรณ์หรือแบตเตอรี่ได้

สำหรับ Magsafe สำหรับอุปกรณ์ iPhone 12 และ 13 ที่ใช้ชาร์จไร้สาย สามารถใช้งานและชาร์จได้พร้อมกันในเวลาเดียวกัน โดยไม่เกิดปัญหาการร้อนขึ้นจนถึงขีดจำกัด ดังนั้นคุณสามารถใช้งานและชาร์จอุปกรณ์ iPhone ของคุณได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว โดยไม่ต้องกังวลเรื่องความปลอดภัยของอุปกรณ์หรือแบตเตอรี่

อย่างไรก็ตาม หากคุณมีความจำเป็นต้องใช้งานอุปกรณ์ MacBook หรือ MacBook Pro ขณะที่กำลังชาร์จแนะนำให้ใช้งานอุปกรณ์โดยการเชื่อมต่อกับแหล่งจ่ายไฟที่มีเทคโนโลยีชาร์ สามารถป้องกันการร้อนขึ้นของอุปกรณ์ได้ ซึ่งจะช่วยลดความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นต่ออุปกรณ์หรือแบตเตอรี่ได้

IPhone ใส่เคสสามารถชาร์จกับ  magsafe ได้ไหม

iPhone 12 และ 13 มีการออกแบบมาเพื่อรองรับเทคโนโลยี Magsafe ซึ่งเป็นการชาร์จไร้สายที่มีความสะดวกสบาย และปลอดภัย ดังนั้นคุณสามารถชาร์จได้พร้อมกันกับการใส่เคสได้ โดยไม่ต้องถอดเคสออกจากอุปกรณ์ แต่เพื่อการใช้งานที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพแนะนำให้ใช้เคส Magsafe ที่ออกแบบมาสำหรับ iPhone 12 และ 13 จะมีแหวนแม่เหล็กภายในเพื่อช่วยดึงดูดอุปกรณ์ iPhone ของคุณให้สามารถชาร์จได้อย่างมั่นใจว่า IPhone ของคุณจะไม่หลุดออกในขณะชาร์จ นอกจากนี้ ยังมีเคส Magsafe ที่มาพร้อมกับแหล่งจ่ายไฟเพิ่มเติม เช่น Powerbank  หรือแท่นชาร์จ อย่างไรก็ตาม หากคุณใช้งาน iPhone 12 หรือ 13 ที่มีเคสและต้องการใช้งาน Magsafe สำหรับชาร์จ แนะนำให้เลือกใช้เคสที่มีการรับประกันว่าสามารถใช้งานร่วมกับ Magsafe ได้ โดยไม่เสียหายต่ออุปกรณ์หรือแบตเตอรี่ของ iPhone ของคุณแม็กเซฟ

ข้อดีของการชาร์จไร้สาย magsafe

 การชาร์จไร้สาย Magsafe นั้นเป็นเทคโนโลยีใหม่ที่ออกแบบมาเพื่อการใช้งานที่สะดวกสบายมากขึ้น ไม่ต้องใช้สายและปลั๊ก ไม่ต้องยุ่งยากกับการเชื่อมต่อสายชาร์จ มีระบบรักษาความปลอดภัยที่สูงไม่ต้องกังวลเรื่องการชาร์จที่ไม่สามารถป้องกันไฟรั่วไหล นอกจากนี้ ระบบ Magsafe ยังสามารถตรวจจับการชาร์จไม่ถูกต้อง และหยุดการชาร์จเมื่อได้รับแรงดันเกินขนาดได้อีกด้วย มีดีไซน์ที่สวยงามทนทานและคุ้มค่า ตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานที่ไม่ต้องการความยุ่งยากในเรื่องของสายชาร์จ ไม่ต้องเสียเวลาเสียบสายชาร์จเข้าๆ ออกๆ เพียงแค่วางอุปกรณ์ของคุณลงแท่นชาร์จก็เป็นอันชาร์จเสร็จเรียบร้อย

magsafe ใช้งานแล้วเคสเป็นรอย ปกติไหม

การใช้งาน Magsafe อาจทำให้เกิดรอยบนเคสของ iPhone 12 หรือ 13 บางรุ่น โดยเฉพาะเคสที่ไม่ได้รับการออกแบบมาเพื่อรองรับ Magsafe อย่างเป็นทางการ แต่รอยเหลืองหรือรอยแดงที่เกิดขึ้นไม่มีผลต่อการใช้งานของอุปกรณ์ และสามารถลบได้โดยใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์หรือผ้าที่ไม่เป็นเคลือบ ควรระวังการใช้งานอย่างเหมาะสม เพื่อลดโอกาสในการเกิดรอยบนเคส โดยไม่ควรใช้กับเคสที่มีแรงดันต่ำกว่า 20 กิโลโวลต์หรือไม่มีการรองรับ Magsafe อย่างเป็นทางการ เพราะอาจทำให้เคสหรืออุปกรณ์ได้รับความเสียหายได้ อย่างไรก็ตาม ถ้าคุณต้องการป้องกันการเกิดรอยบนเคส คุณสามารถเลือกใช้เคส Magsafe ที่ออกแบบมาเพื่อรองรับการใช้งานร่วมกับ Magsafe ได้ โดยเคสเหล่านี้มีรูปแบบที่ช่วยป้องกันการเกิดรอยบนเคส และให้ความคงทนและคุ้มค่าสูงสุดในการใช้งานกับอุปกรณ์ของคุณ

 

จอห์น

จอห์นนำความเชี่ยวชาญอันมากมายมาสู่การรีวิวผลิตภัณฑ์ มันรวมข้อมูลเชิงลึกเข้ากับการสนับสนุนผู้บริโภค เป็นเวลาหลายปีที่เขาวิเคราะห์แนวโน้มในหมวดหมู่ต่างๆ ตั้งแต่นวัตกรรมทางเทคโนโลยีไปจนถึงสิ่งสำคัญด้านความงาม ภารกิจของ john คือการชี้แนะผู้อ่านผ่านเสียงอึกทึกของตลาดไปสู่อัญมณีที่รับประกันความสนใจและการลงทุนของพวกเขา.

แชร์โพสต์นี้