โรครองช้ำ คืออะไร
โรครองช้ำ เป็นอาการปวดที่บริเวณฐานเท้าฝั่งใต้ โดยเฉพาะในพื้นที่เกือบถึงส้นเท้า ปัญหานี้เกิดขึ้นเนื่องจากการอักเสบของเส้นเอ็น “Plantar Fascia” ซึ่งเป็นเส้นเอ็นที่เชื่อมต่อระหว่างส้นเท้ากับนิ้วเท้า ที่ช่วยในการรับน้ำหนักขณะเดินหรือวิ่ง
สาเหตุของโรครองช้ำ:
- การใส่รองเท้าที่ไม่เหมาะสม หรือมีซัพพอร์ตไม่ดี
- มีน้ำหนักเกิน
- มีประวัติการบาดเจ็บหรือใช้งานฝ่าเท้ามากเกินไป
- ความตึงของเอ็นและกล้ามเนื้อในพื้นที่ขา และเท้า
- กิจกรรมทางกีฬาที่มีการกระแทกสูง หรือใช้งานเท้ามาก
การรักษา:
การรักษาโรครองช้ำส่วนใหญ่จะเน้นที่การแก้ไขสาเหตุหลัก เช่น เปลี่ยนรองเท้า, การพักผ่อน, การทำการกายภาพบำบัด, การยืดเอ็นและกล้ามเนื้อ และในกรณีที่รุนแรงอาจมีการรักษาด้วยการฉีดสเตียรอยด์หรือการผ่าตัดในบางกรณี
รองเท้าแก้รองช้ำ ส่งผลดีต่อผู้เป็นโรครองช้ำอย่างไร
รองเท้าแก้รองช้ำถูกออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ที่มีอาการปวดเนื่องจากโรครองช้ำ หรือ Plantar Fasciitis การเลือกรองเท้าที่เหมาะสมสามารถช่วยลดอาการปวด ป้องกันการเกิดรองช้ำเพิ่มขึ้น และช่วยให้เท้าขณะเดินหรือวิ่งได้รับการรองรับที่ถูกต้อง โดยส่งผลดีต่อผู้เป็นโรครองช้ำดังนี้
- ซัพพอร์ตที่ส้นเท้า ช่วยในการรับน้ำหนักของตัวและกระจายแรงกระแทก ทำให้รู้สึกสบายและลดแรงกระแทกที่เกิดกับเส้นเอ็น Plantar Fascia
- ลดแรงกระแทกในการเดินหรือวิ่ง ช่วยลดการกระตุ้นและอักเสบที่เส้นเอ็น Plantar Fascia
- รูปทรงที่พอดีกับเท้าจะช่วยให้เท้ามีการเคลื่อนที่ถูกต้อง ลดความเครียดที่เกิดขึ้นกับเส้นเอ็น Plantar Fascia
- ออกแบบมาเพื่อโรครองช้ำจะเน้นไปที่ความนุ่มเยียวยา ลดแรงกระแทก และรับน้ำหนักของตัวในการเดินและวิ่ง
รองเท้าแก้รองช้ำที่ดี มีลักษณะอย่างไร
รองเท้าแก้รองช้ำที่ดีควรมีลักษณะที่สนับสนุนการเดินหรือวิ่งในทิศทางที่ถูกต้อง ช่วยในการป้องกันและบรรเทาอาการปวดจากโรครองช้ำ ลักษณะของรองเท้าที่ดีสำหรับผู้ที่มีโรครองช้ำดังน้ี :
- ซัพพอร์ตที่ส้นเท้า: สำคัญมากสำหรับผู้ที่มีอาการปวดที่ส้นเท้า รองเท้าควรมีซัพพอร์ตด้านในและด้านนอกที่เหมาะสม เพื่อสนับสนุนโครงสร้างของเท้า
- ฟูตเบดที่มีความนุ่ม: ฟูตเบดที่มีความนุ่มสบายช่วยกระจายแรงกระแทกและเพิ่มความสบายขณะเดิน
- ความสูงของรองเท้า: รองเท้าที่มีส้นสูงประมาณ 1-1.5 นิ้ว สามารถช่วยลดความเครียดบนเส้นเอ็น Plantar Fascia
- สายรัดและการยึดเกาะ: รองเท้าควรมีสายรัดที่สามารถปรับแน่นหรือหลั loose ได้ และรองเท้าควรยึดเกาะเท้าได้ดี เพื่อป้องกันการเคลื่อนไหวผิดปกติของเท้า
- ซัพพอร์ตแนวยาว: ช่วยสนับสนุนเท้าและป้องกันการบิดเบือดเกินไป
- เซ็ตาชิฟ: คือการออกแบบด้านหน้าของรองเท้าให้มีการโค้งขึ้นเล็กน้อย ช่วยในการส่งเสริมให้การเคลื่อนที่ของเท้าเป็นไปในทิศทางที่ถูกต้อง
- วัสดุที่ระบายอากาศ: ช่วยในการระบายความชื้น ลดความร้อน และป้องกันการเกิดรองช้ำจากความชื้น
- น้ำหนักที่เบา: รองเท้าที่มีน้ำหนักเบาจะทำให้การเดินหรือวิ่งรู้สึกสบายและไม่เพิ่มความเครียดในการใช้งาน
แนะนำ 7 ยี่ห้อรองเท้ารองซ้ำคุณภาพดี ลดปวดเมื่อย สวมใส่สบาย
- Skechers : คือ หนึ่งในยี่ห้อรองเท้าที่ได้รับความนิยมในการให้ความสบายและช่วยลดปัญหารองช้ำมาเป็นเวลานาน โดยมีการออกแบบและเทคโนโลยีที่เน้นไปที่ความสบายของผู้ใส่
จุดเด่นของรองเท้า Skechers คือ:
- Memory Foam: คือวัสดุที่ใช้ในการผลิตฟองน้ำ มีความสามารถในการปรับตัวตามรูปร่างของเท้าและคืนกลับมาสู่รูปเดิมเมื่อไม่ถูกกดดัน ทำให้เท้ารู้สึกสบายและลดการเกิดรองช้ำ
- Air-Cooled Memory Foam: เป็นการรวมข้อดีของ Memory Foam กับเทคโนโลยีการระบายอากาศ ช่วยให้เท้ารู้สึกเย็นสบายและลดความร้อนเมื่อใส่รองเท้านาน
- Ultra Go cushioning: นำไปใช้ในรองเท้าวิ่งของ Skechers ซึ่งเป็นวัสดุที่นุ่มสบาย และมีความยืดหยุ่น ทำให้การเดินและวิ่งรู้สึกเบาและสบาย
- Flexible sole design: ซอลของรองเท้าถูกออกแบบให้มีความยืดหยุ่น เพื่อให้สามารถปรับตัวไปตามการเคลื่อนที่ของเท้า
- Breathable mesh fabric: ในบางรุ่นของรองเท้า Skechers จะมีการใช้วัสดุผ้าตาข่ายที่ลมผ่านได้ดี ช่วยให้เท้ารู้สึกเย็นสบายและลดความชื้นภายในรองเท้า
2. Nike : เป็นยี่ห้อรองเท้าที่มีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จักในทุกมุมโลก มีการออกแบบรองเท้าหลายรุ่นที่มุ่งเน้นไปที่การแก้ปัญหารองช้ำ และเพิ่มความสบายให้กับผู้ใส่
จุดเด่นของรองเท้า Nike คือ:
- เทคโนโลยี Nike Air: นั้นเป็นหนึ่งในคุณสมบัติเด่นที่สำคัญของ Nike ซึ่งเป็นหมอนลมที่อยู่ภายในซอลรองเท้า ทำให้การเดินและวิ่งสบายมากยิ่งขึ้น และช่วยลดแรงกระแทกที่เกิดขึ้นตอนเท้ากระแทกพื้น
- เทคโนโลยี Nike React: เป็นวัสดุซึ่งมีความนุ่มและยืดหยุ่น ช่วยในการกระจายแรงกระแทก และคืนพลังแก่เท้าในขณะวิ่งหรือเดิน
- วัสดุ Flyknit: วัสดุนี้เป็นวัสดุที่ถูกออกแบบมาเพื่อให้รองเท้ามีความยืดหยุ่น ลมผ่านได้ดี และสามารถปรับตัวตามรูปร่างของเท้า ช่วยลดการเกิดรองช้ำหรือการเจ็บเท้า
- รองเท้าวิ่งที่มีการสนับสนุนคางเกย: สำหรับผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับการเอียงเท้าเข้าหรือออก ยี่ห้อ Nike ได้ออกแบบรองเท้าที่มีการสนับสนุนในพื้นที่คางเกย ช่วยลดแรงกระแทกและป้องกันการบาดเจ็บ
- วัสดุที่ใช้สำหรับซอล: Nike ใช้วัสดุที่มีความยืดหยุ่นและนุ่มสบาย ทำให้เกิดความสบายเมื่อใส่รองเท้าในระยะเวลาที่ยาวนาน
3. Adidas : หนึ่งในยี่ห้อรองเท้าระดับโลกที่มีชื่อเสียงและความนิยมอย่างแพร่หลาย โดยมีการออกแบบและพัฒนาเทคโนโลยีที่เน้นไปที่ความสบายและการป้องกันรองช้ำเป็นพิเศษ
จุดเด่นของรองเท้า Adidas คือ:
- Boost Technology: วัสดุที่ใช้สำหรับซอลรองเท้า ที่มีความนุ่มสบายและคืนพลังแก่เท้าในขณะวิ่งหรือเดิน ช่วยลดแรงกระแทกและป้องกันการเกิดรองช้ำ
- Primeknit: เป็นวัสดุผ้าแบบพิเศษที่ถูกถักมา เพื่อให้มีความยืดหยุ่นและลมผ่านได้ดี สามารถปรับตัวตามรูปร่างของเท้า ซึ่งช่วยลดการเกิดรองช้ำหรือการเจ็บเท้า
- OrthoLite Sockliner: นำไปใช้ในการผลิตรองเท้าเพื่อให้เท้ารู้สึกสบายและสดชื่น นอกจากนั้นยังมีคุณสมบัติในการป้องกันแบคทีเรียและกลิ่นไม่พึงประสงค์
- Torsion System: เป็นระบบที่ช่วยในการสนับสนุนภายในรองเท้า และช่วยให้เท้าเคลื่อนที่ได้อย่างเต็มที่ โดยไม่ทำให้เกิดความเจ็บปวดหรือรองช้ำ
- Adaptive Traxion: ทำให้รองเท้ามีการยึดเกาะพื้นที่ดีขึ้น และปรับตัวตามพื้นที่ที่ผู้ใส่เคลื่อนที่ ช่วยให้การเดินหรือวิ่งบนพื้นที่ที่ลื่นไถลเป็นไปได้อย่างมั่นใจ
4. New Balance : หนึ่งในยี่ห้อรองเท้าที่มีชื่อเสียงและได้รับความนิยมในหมู่ผู้ที่รักการวิ่งและการออกกำลังกาย บริษัทนี้เน้นที่การผลิตรองเท้าที่เสริมสร้างความสบายและการสนับสนุนให้กับเท้า ซึ่งช่วยป้องกันการเกิดรองช้ำ
จุดเด่นของรองเท้า New Balance คือ:
- Fresh Foam: เป็นวัสดุที่ใช้สำหรับซอลรองเท้า ที่มีความนุ่มสบายและยืดหยุ่น ช่วยกระจายแรงกระแทกเมื่อเท้ากระแทกพื้น และช่วยลดการเกิดรองช้ำ
- ABZORB cushioning: เป็นวัสดุคัชชั่นที่ออกแบบมาเพื่อกระจายแรงกระแทก ช่วยในการป้องกันการบาดเจ็บขณะวิ่งหรือการเดิน
- ROLLBAR technology: ช่วยในการสนับสนุนและป้องกันการเอียงของเท้าในขณะที่วิ่ง สำหรับคนที่มีปัญหาเกี่ยวกับการเคลื่อนที่ของคางเกย
- Ndurance: เป็นวัสดุที่ใช้ทำซอลรองเท้า ซึ่งเน้นที่ความทนทานและความยืดหยุ่น ช่วยให้รองเท้ามีอายุการใช้งานที่ยาวนาน
- Phantom Liner: เป็นส่วนของภายในรองเท้าที่ทำมาเพื่อลดการเกิดการเสียดทานระหว่างเท้ากับรองเท้า ช่วยป้องกันรองช้ำและเพิ่มความสบายในการใส่รองเท้า
5. Asics : หนึ่งในยี่ห้อรองเท้าที่เน้นไปที่การออกกำลังกายและกีฬา โดยเฉพาะในการวิ่ง มีชื่อเสียงและได้รับความนิยมสูงในกลุ่มวิ่งเนื่องจากการออกแบบที่มุ่งเน้นไปที่ความสบายและการสนับสนุนของเท้า ทำให้ลดโอกาสการเกิดรองช้ำและบาดเจ็บขณะวิ่ง
จุดเด่นของรองเท้า Asics คือ:
- GEL Technology: เทคโนโลยีซิลิโคนที่ใช้ในซอลของรองเท้า เพื่อกระจายแรงกระแทกเมื่อเท้ากระแทกพื้น ช่วยลดแรงกระแทกและเพิ่มความสบายในการวิ่ง
- FlyteFoam: เป็นวัสดุที่ใช้ในซอลรองเท้า มีความเบา และยืดหยุ่น ช่วยในการคืนพลังแก่เท้าขณะวิ่ง ทำให้การวิ่งมีความราบรื่นและฟินมากขึ้น
- Trusstic System: ออกแบบมาเพื่อสนับสนุนและเสริมความแข็งแรงในพื้นที่ซากกลางของรองเท้า ช่วยป้องกันการบิดเบือดขณะวิ่ง
- AHAR Outsole: วัสดุซอลรองเท้าที่มีความทนทาน รับความเสียดทานได้ดี ช่วยให้รองเท้ามีอายุการใช้งานที่ยาวนาน
- DuoMax Support System: เป็นระบบที่ช่วยสนับสนุนและเพิ่มความเสถียรให้กับเท้า โดยเฉพาะสำหรับคนที่มีปัญหาเกี่ยวกับการเอียงของเท้า
6. Clarks : ได้รับความนิยมโดยเฉพาะในกลุ่มผู้ที่เน้นการสวมใส่ในการทำงานและกิจกรรมประจำวัน ด้วยการรวมความสวยงาม, แฟชั่น, และความสบายเข้าด้วยกัน ทำให้ Clarks เป็นยี่ห้อที่ได้รับความนิยมในการเลือกรองเท้าที่ไม่เพียงแต่ดูดี แต่ยังช่วยป้องกันรองช้ำได้อีกด้วย
จุดเด่นของรองเท้า Clarks คือ:
- Cushion Plus Technology: ซอลรองเท้าที่ออกแบบมาเพื่อให้รับความกระแทกได้ดี ลดความเจ็บปวดและรองช้ำจากการใส่รองเท้านาน ๆ
- OrthoLite footbed: ส่วนของฟูตเบดที่ทำจากวัสดุ OrthoLite ช่วยในการกระจายความกดดันขณะเดิน และมีความสามารถในการระบายความชื้น ทำให้เท้ายังรู้สึกสดชื่นแม้ใส่นาน
- Active Air Vent: เป็นเทคโนโลยีการระบายอากาศ ช่วยให้เท้ารับความสดชื่น ลดความร้อน และป้องกันรองช้ำจากการสวมใส่นาน
- Unstructured Technology: การออกแบบรองเท้าที่เน้นให้มีความนุ่ม พับเก็บได้ และมีน้ำหนักเบา ทำให้การสวมใส่รองเท้า Clarks สบายมากขึ้น
- Premium Leather and Materials: Clarks ใช้หนังและวัสดุคุณภาพสูงในการผลิตรองเท้า เพื่อให้รู้สึกสบาย และเพิ่มความทนทานของรองเท้า
7. ECCO : มีชื่อเสียงในการผลิตรองเท้าที่รวมคุณภาพ, ความสบาย, และแฟชั่นเข้าด้วยกัน. อยู่ในสายยี่ห้อรองเท้าที่เน้นไปที่ความปราณีตและการสวมใส่ในทุกๆ วัน
จุดเด่นของรองเท้า ECCO คือ:
- FLUIDFORM Technology: เทคนิคการผลิตที่เน้นการฉีดโฟมโดยตรงเข้าไปในรองเท้า ทำให้ได้รองเท้าที่มีน้ำหนักเบา ซอฟท์ และเพิ่มความสบายในการสวมใส่
- HYDROMAX: เป็นการประมวลผลทางเคมีที่ทำให้วัสดุของรองเท้า (โดยเฉพาะหนัง) มีความทนน้ำ ซึ่งช่วยป้องกันการเปียกและการเกิดรองช้ำจากความชื้น
- BIOM Technology: การออกแบบรองเท้าที่เน้นไปที่รูปร่างธรรมชาติของเท้า ช่วยให้เท้าเคลื่อนไหวได้อย่างธรรมชาติ และลดความเครียดที่เกิดขึ้นจากการสวมใส่รองเท้า
- Durable and Flexible Sole: ซอลที่ทำจากวัสดุที่ทนทานและยืดหยุ่น ช่วยให้รองเท้าของ ECCO สามารถทนต่อการใช้งานในทุกเงื่อนไขและสภาพอากาศ
- Premium Leather: ECCO เน้นในการใช้หนังคุณภาพสูงในการผลิตรองเท้า ไม่เพียงแต่ทำให้รองเท้าดูหรูหรา แต่ยังช่วยในความทนทานและความสบายด้วย