ยางรถยนต์ของ Continental เป็นผู้นำในวงการทั่วโลกด้านการสร้างยางรถยนต์ที่คุณภาพสูง และมีความสามารถในการนำนวัตกรรมใหม่ ๆ มาสู่ตลาดยางรถยนต์โดยตลอด เฉพาะยางที่ถูกออกแบบมาสำหรับเส้นทางที่ท้าทาย สถานการณ์ทางอากาศและรถยนต์ของคุณ
Continental จัดทำยางสำหรับสภาพเส้นทางและอากาศทุกแบบ รวมถึงยางฤดูร้อน ยางฤดูหนาว และยางสำหรับทุกสภาพอากาศ (all-season) สำหรับรถยนต์ รถกระบะ รถเอสยูวี และรถบรรทุกขนาดต่าง ๆ
หนึ่งในลักษณะเด่นของยาง Continental คือการให้ความสำคัญกับความปลอดภัยทั้งขณะขับขี่ในสภาพเส้นทางที่ดีและสภาพอากาศที่ไม่ดี ยางนี้ผ่านการทดสอบในสภาพฝนตกและถนนชื้นแฉะ ทั้งการเร่งและการเบรค การควบคุมทิศทางและความสบายในการขับขี่
นอกจากนี้ยาง Continental ยังเน้นความยั่งยืนทางสิ่งแวดล้อมด้วยการพยายามลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ผลิตภัณฑ์ของยี่ห้อนี้ส่วนใหญ่ได้รับการออกแบบเพื่อความสุขภาพ ความปลอดภัย และประสิทธิภาพของผู้ใช้โดยยังรักษาความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
ยาง Continental ยังมีชื่อเสียงด้านความทนทานและการทำงานในชีวิตจริง และเป็นตัวเลือกยอดนิยมสำหรับผู้ผลิตรถยนต์อีกด้วย ยี่ห้อต่าง ๆ ทั่วโลกส่วนใหญ่จะมักเลือกใช้ยาง Continental เป็นส่วนประกอบมาตรฐานของรถใหม่
และเมื่อคุณเลือกยาง Continental คุณจะได้รับประโยชน์จากความตั้งใจในการออกแบบ การผลิตและทดสอบที่ละเอียดอ่อนเพื่อให้คุณมั่นใจได้ว่า การขับขี่ของคุณดีที่สุดที่วงการยางรถยนต์มีให้
เทคโนโลยีหลักที่ใช้ผลิตยางรถยนต์continental
Continental ใช้เทคโนโลยีต่าง ๆ ที่ล้ำสมัยและนวัตกรรมในการผลิตยางรถยนต์ของตน ที่มีจุดมุ่งหมายหลักคือเพิ่มความปลอดภัย ประสิทธิภาพ และความยั่งยืน ดังนี้:
- MultiGrip : เทคโนโลยีขั้นสูงจาก Continental ใช้การขึ้นรูปยางทั้งเส้น โดยการควบคุม อุณหภูมิในการผลิตเพื่อให้คอมพาวด์ยางเรียงตัวกันต่อเนื่อง ทำให้การเข้าโค้งทุกโค้งนุ่มนวล และความแตกต่างของการใช้งานหน้ายาง และไหล่ยางเป็นไปตามการใช้งานมีประสิทธิภาพสูงสุด
- Traction Skin : ออกแบบพื้นผิวหน้าสัมผัสยางให้เป็นผิวเนื้อทราย อณูละเอียดระดับ Micro-rough สูงสุดด้วยประสิทธิภาพในการยึดเกาะ ทุกสภาพถนน และทุกสภาพอากาศ
- ZeroDegree : โครงสร้างยางใยเหล็ก 0-Steel-belted ที่เรียงตัวกันแบบ 0 องศา จากเส้นใยเหล็กเดียวทั้งชิ้นยาง ส่งผลให้การทรงตัวที่เสถียร มั่นคงในทุกองศา มั่นใจได้ทุกการเข้าโค้งขณะขับขี่ด้วยความเร็วสูง
- RainGrip : คอมพาวด์ยางสูตรพิเศษที่มีส่วนผสมของสารซิลิก้าในเนื้อยาง ส่งผลให้มีเนื้อยางมีความเกาะมากเป็นพิเศษบนพื้นถนนเปียก
- Handmade in Germany : ยางเรเดียลของ Continental ถูกผลิตขึ้นโดยโรงงานผู้ผลิตที่มีประสบการณ์ และทักษะฝีมือ เพื่อให้ออกมาเป็นยางที่ดีที่สุดสำหรับคุณ
- GripLimitFeedback : เทคโนโลยี GripLimitFeedback (GLF) เป็นการยกระดับอีกขั้นของความปลอดภัย เมื่อผู้ขับขี่ใช้งานหน้ายางจนถึงองศาที่สูงสุดแล้วยางจะส่งสัญญาณเตือนผู้ขับขี่ เพื่อไม่ได้เกินลิมิตของหน้ายาง
- MileagePlus : เทคโนโลยีขั้นสูงในเนื้อยางที่จะช่วยยืดระยะทางของการใช้งานให้ยาวนานขึ้น โดยที่ยังคงประสิทธิภาพในการยึดเกาะได้อย่างยอดเยี่ยมตลอดอายุการใช้งาน
- EasyHandling : ยกระดับการขับขี่ขึ้นไปอีกขั้น ด้วยเทคโนโลยีที่จะช่วยให้การขับขี่ของคุณ เป็นไปได้อย่างใจสั่ง สามารถควบคุมทิศทางที่ต้องการได้อย่างแม่นยำ พลิกรถได้ง่าย และยังตอบสนองฟีดแบคยางกับพื้นถนนได้ดี
- Performance over Time : เทคโนโลยีใหม่ที่สร้างขึ้นเพื่อความมั่นใจสูงสุด ถึงแม้ใช้ยางไปหลายพันกิโลเมตร ก็ยังคงมีประสิทธิสูงสุดคงเดิม
ยางรถยนต์ของ Continental มีความเด่นเฉพาะตัวในหลากหลายด้าน รวมถึงความปลอดภัย, ความทนทาน, และประสิทธิภาพในการขับขี่ ซึ่งจะแตกต่างกันไปตามรุ่นและประเภทของยาง
ยางรถยนต์ Continental มียางสำหรับรถประเภทไหนบ้าง
ยางรถยนต์ Continental มีหลายรุ่นและประเภทที่ออกแบบมาเพื่อใช้งานกับรถที่มีลักษณะและความต้องการที่แตกต่างกันไปดังนี้ :
- รถยนต์ทั่วไป (Passenger Cars): ยางของ Continental ถูกออกแบบมาเพื่อให้ได้รับประสิทธิภาพสูงสุดเมื่อใช้งานกับรถยนต์ทั่วไป รวมถึงรถเก๋งและรถหรู ทั้งในเรื่องของความปลอดภัย, การลดการสึกหรอ, และความทนทาน.
- รถกระบะ (Trucks and SUVs): Continental มียางที่ถูกออกแบบเฉพาะสำหรับรถกระบะและ SUV ที่ต้องการความทนทานและประสิทธิภาพสูงในทุกสภาพการขับขี่ ทั้งบนถนนและป่า.
- รถสปอร์ตและรถแข่ง (Performance and Racing Cars): ยางรุ่นสปอร์ตของ Continental สำหรับรถสปอร์ตและรถแข่งถูกออกแบบเพื่อให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุดในการขับขี่ที่ความเร็วสูง, ทั้งในสภาพอากาศและถนนที่แตกต่างกัน.
- รถโดยสาร (Commercial Vans): ยางสำหรับรถโดยสารและรถวานขนาดเล็กของ Continental ถูกออกแบบให้ทนทานและปลอดภัย แม้จะมีการใช้งานที่หนัก.
- รถจักรยานยนต์ (Motorcycles): Continental ยังมียางสำหรับรถจักรยานยนต์ที่ให้ความมั่นใจในการขับขี่ทั้งในสภาพถนนและสภาพอากาศที่แตกต่างกัน.
- รถบรรทุกและรถพ่วง: ออกแบบโดยมุ่งเน้นในด้านความทนทาน ตอบรับการใช้งานในสภาพถนนที่มีหิน ทราย หรือเปียกสลับแห้ง
ทำไมต้องเลือกยางรถยนต์ Continental
ยางรถยนต์จาก Continental มีข้อดีในหลาย ๆ ด้านที่ทำให้เป็นที่นิยมในหมู่ผู้ใช้รถทั่วโลก ดังนี้:
- Continental มีชื่อเสียงในการผลิตยางรถยนต์ที่มีคุณภาพสูง ถูกออกแบบให้สมรรถนะการขับขี่ที่ดีในทุกสภาพอากาศและทุกประเภทของถนน
- Continental นำเสนอเทคโนโลยีที่ใช้ในการผลิตยางรถยนต์ ทั้งในด้านของการทนต่อสึกหรอ, การยึดถนน, และประสิทธิภาพในการขับขี่ ทั้งหมดนี้ทำให้การขับขี่เป็นไปอย่างปลอดภัยและราบรื่นมากยิ่งขึ้น
- บางรุ่นของยางรถยนต์ Continental ถูกออกแบบมาเพื่อความประหยัดน้ำมัน การลดการเสียดสีของยางเมื่อเคลื่อนที่สามารถช่วยลดการใช้น้ำมันของรถ
- ยางของ Continental ได้รับการประเมินเป็นที่ดีเพื่อการควบคุมที่เหนียวแน่นและความมั่นคงในการขับขี่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการขับขี่ที่ความเร็วสูงหรือในสภาพถนนที่เปียก
- Continental เป็นบริษัทที่มีชื่อเสียงและมีประวัติศาสตร์ยาวนานในอุตสาหกรรมยาง ยางรถยนต์ ได้รับการอนุมัติจากผู้ผลิตรถทั่วโลกและใช้เป็นยางมาตรฐานในรถหลายรุ่น
- Continental มีการผลิตยางให้กับทุกประเภทของรถ รวมถึงรถยนต์ขนาดเล็ก, รถยนต์ขนาดกลาง, รถบรรทุก, และรถสปอร์ต ทำให้คุณสามารถเลือกยางที่เหมาะสมที่สุดกับรถของคุณ
- ยางของ Continental ไม่เพียงแต่ทำงานได้ดีเท่านั้น แต่ยังมีการออกแบบที่ทันสมัยและดูดีบนรถของคุณ
เลือกยางรถยนต์ อย่างไรให้เหมาะแก่การใช้งาน
การเลือกยางรถยนต์ที่เหมาะสมสำหรับการใช้งานของคุณนั้นมีหลายปัจจัยที่ควรพิจารณาดังนี้ :
- ประเภทของรถ: ประเภทของรถที่คุณใช้จะมีผลต่อการเลือกยางรถยนต์ ยางสำหรับรถแฮชแบ็ก, รถเก๋ง, รถยนต์สปอร์ต, รถ SUV หรือรถบรรทุกทั้งหมดนั้นมีความแตกต่างกัน
- สภาพอากาศและเส้นทางที่ใช้งาน: ถ้าคุณขับรถส่วนใหญ่บนถนนที่เรียบ ยางรถยนต์สำหรับถนนเรียบจะเป็นทางออกที่ดี ถ้าคุณขับรถบนเส้นทางที่มีการใช้งานหนักหรือบนถนนที่ไม่เรียบร้อย คุณอาจต้องการคิดถึงยางที่มีลายเส้นที่เหมาะสม
- ประสิทธิภาพในการขับขี่: คุณต้องการการขับขี่ที่สบายหรือควบคุมอย่างแน่นหนามาก ยางที่มีด้านข้างที่ยืดหยุ่นสามารถให้ความสบายในการขับขี่ ในขณะที่ยางที่มีด้านข้างที่แข็งจะเพิ่มการควบคุม
- ความทนทาน: หากคุณขับรถอย่างต่อเนื่องและในระยะทางที่ยาว คุณอาจต้องการยางที่ทนทานและมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน
- ความเร็วที่คุณขับ: ยางรถยนต์มีระดับความเร็วที่ต่างกัน ที่จะบ่งบอกถึงความเร็วสูงสุดที่ยางสามารถจัดการได้เซฟตี้