น้ำมันเครื่อง Shell ดีไหม ?

Shell ถือเป็นหนึ่งในตัวเลือกยอดนิยมสำหรับผู้ที่ต้องการดูแลและประสิทธิภาพเครื่องยนต์ของพวกเขาให้อยู่ในสภาพที่ดีที่สุด บริษัท Shell มีประวัติศาสตร์อันยาวนานในการผลิตน้ำมันเครื่องที่มีคุณภาพและเป็นที่เชื่อถือได้ นับตั้งแต่การก่อตั้งบริษัทในปี 1907 ได้มีการพัฒนาผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่องเพื่อตอบสนองความต้องการของเครื่องยนต์สมัยใหม่ที่มีความซับซ้อนและต้องการการดูแลที่เฉพาะเจาะจงมากขึ้น

น้ำมันเครื่องของ Shell มีหลากหลายสูตรและประเภทเพื่อตอบโจทย์เครื่องยนต์ที่แตกต่างกัน ตั้งแต่น้ำมันเครื่องแบบธรรมดา (mineral oil) ไปจนถึงน้ำมันเครื่องสังเคราะห์เต็มรูปแบบ (full synthetic oil) ผลิตภัณฑ์เหล่านี้ถูกออกแบบมาเพื่อลดการสึกหรอ, ป้องกันการกัดกร่อน, และช่วยให้เครื่องยนต์สามารถทำงานได้อย่างราบรื่นแม้ในสภาวะที่รุนแรง

หนึ่งในผลิตภัณฑ์ที่โดดเด่นของ Shell คือน้ำมันเครื่อง Shell Helix ซึ่งเป็นน้ำมันเครื่องสังเคราะห์ที่มีเทคโนโลยี PurePlus นวัตกรรมการผลิตน้ำมันเครื่องที่ทำให้ได้น้ำมันเบสออยล์ที่สะอาดและบริสุทธิ์มากขึ้นจากก๊าซธรรมชาติ นอกจากนี้ Shell ยังผสมผสานเทคโนโลยี Active Cleansing Technology เพื่อช่วยทำความสะอาดเครื่องยนต์และป้องกันการเกิดคราบสกปรกซึ่งอาจทำให้เกิดการสูญเสียประสิทธิภาพ

Shell ยังมุ่งมั่นในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ของตนให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น โดยมีการนำเสนอน้ำมันเครื่องที่ช่วยลดการปล่อยก๊าซ CO2 และมีความหนืดที่เหมาะสมเพื่อลดการเสียดสีภายในเครื่องยนต์ ซึ่งไม่เพียงแต่ช่วยยืดอายุการใช้งานของเครื่องยนต์เท่านั้น แต่ยังช่วยให้ผู้ใช้สามารถประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงได้อีกด้วย

จุดเด่นของ น้ำมันเครื่อง Shell  

  1. เทคโนโลยีเคมีล้ำสมัย

Shell ใช้เทคโนโลยีเคมีในการพัฒนาน้ำมันเครื่องที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและช่วยยืดอายุการใช้งานของเครื่องยนต์ เช่น เทคโนโลยี PurePlus ที่ผลิตน้ำมันเบสจากก๊าซธรรมชาติที่มีความบริสุทธิ์สูงและมีโมเลกุลที่สม่ำเสมอ.น้ำมันเครื่อง SHELL

  1. Active Cleansing Technology

น้ำมันเครื่องของ Shell มีสารเพิ่มคุณภาพที่ช่วยในการทำความสะอาดเครื่องยนต์จากภายใน, ลดการสะสมของตะกรันและสิ่งสกปรก, ซึ่งช่วยให้เครื่องยนต์ทำงานได้อย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพมากขึ้น.

  1. ประสิทธิภาพการป้องกันการสึกหรอ

น้ำมันเครื่องของ Shell มีสารประกอบพิเศษที่ช่วยป้องกันการสึกหรอของเครื่องยนต์, ยืดอายุการใช้งานของชิ้นส่วน, และลดค่าใช้จ่ายในระยะยาว.

  1. ความเสถียรที่อุณหภูมิต่างๆ

น้ำมันเครื่องของ Shell ออกแบบมาเพื่อรักษาคุณสมบัติทางกายภาพและเคมีที่เสถียรที่สุดที่สามารถทนต่อการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิได้ดี, จากสภาวะหนาวเย็นจัดไปจนถึงความร้อนสูง.

  1. ความหนืดที่เหมาะสม

Shell มีน้ำมันเครื่องที่มีความหนืดหลากหลายเพื่อตอบสนองมาตรฐานของผู้ผลิตรถยนต์ (OEMs) และเพื่อให้เหมาะสมกับเครื่องยนต์แต่ละประเภท.

  1. การปกป้องสิ่งแวดล้อม

Shell ให้ความสำคัญกับผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ดังนั้นน้ำมันเครื่องของพวกเขาจึงพยายามลดปริมาณการปล่อยมลพิษและช่วยในการลดการบริโภคเชื้อเพลิง.

  1. มาตรฐานสูงสุด

น้ำมันเครื่อง Shell ผลิตตามมาตรฐานสากลและได้รับการรับรองจากหลายมาตรฐานสากล, รวมถึง ACEA, API และมาตรฐานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง.

  1. ความไว้วางใจจากแบรนด์รถยนต์ชั้นนำ

น้ำมันเครื่อง Shell เป็นที่ยอมรับและแนะนำโดยหลายแบรนด์รถยนต์ชั้นนำทั่วโลก เช่น Ferrari และ BMW, ซึ่งแสดงถึงความเชื่อมั่นในคุณภาพของผลิตภัณฑ์.

นวัตกรรมของน้ำมันเครื่อง shell ที่นำเสนอ

  1. เทคโนโลยี PurePlus

เทคโนโลยี PurePlus เป็นนวัตกรรมที่นำมาใช้ในการผลิตน้ำมันเครื่องสังเคราะห์ Shell Helix ซึ่งนำเสนอน้ำมันเบสออยล์จากก๊าซธรรมชาติแทนการใช้น้ำมันดิบเป็นวัตถุดิบหลัก ผลลัพธ์ที่ได้คือน้ำมันเบสออยล์ที่มีโมเลกุลสม่ำเสมอและบริสุทธิ์มากขึ้นซึ่งช่วยลดการเสียดสีและสึกหรอภายในเครื่องยนต์

  1. Active Cleansing Technology

Shell พัฒนาเทคโนโลยี Active Cleansing Technology ซึ่งช่วยในการลดการสะสมของสิ่งสกปรกและตะกอนในเครื่องยนต์ นวัตกรรมนี้ช่วยให้เครื่องยนต์ทำงานได้ราบรื่นและมีประสิทธิภาพเหมือนใหม่ได้นานขึ้น

  1. Dynamic Protection Plus Technology

นวัตกรรมนี้ให้การปกป้องเครื่องยนต์แบบไดนามิก ทำให้น้ำมันเครื่องมีความสามารถในการป้องกันการสึกหรอได้ดีในทุกระดับอุณหภูมิและสภาวะการขับขี่ที่แตกต่างกัน

  1. Low-Viscosity Oils

Shell ได้พัฒนาน้ำมันเครื่องที่มีความหนืดต่ำเพื่อตอบสนองต่อความต้องการของเครื่องยนต์ใหม่ที่มีความต้องการน้ำมันหนืดน้อยลงเพื่อช่วยลดการเสียดสีและเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้น้ำมัน

  1. การพัฒนาที่เน้นสิ่งแวดล้อม

Shell ยังคงพัฒนาน้ำมันเครื่องที่ช่วยลดการปล่อยมลพิษและสนับสนุนการขับขี่ที่ยั่งยืนมากขึ้น น้ำมันเหล่านี้มีการปล่อย CO2 ที่ต่ำและช่วยลดการบริโภคเชื้อเพลิง

  1. การวิจัยและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง

Shell ลงทุนอย่างมากในการวิจัยและพัฒนา เพื่อค้นหาวิธีใหม่ๆ ในการปรับปรุงผลิตภัณฑ์ของตน อาทิ การทดสอบน้ำมันเครื่องในสภาพที่หลากหลายและในการแข่งขันรถยนต์ เพื่อให้แน่ใจว่าผลิตภัณฑ์ที่พวกเขานำเสนอสามารถตอบสนองต่อความท้าทายที่แท้จริงบนถนนได้

น้ำมันเครื่อง shell มีกี่ประเภท

  1. Shell Helix สำหรับรถยนต์ส่วนบุคคล
  • Shell Helix Ultra – น้ำมันเครื่องสังเคราะห์เต็มรูปแบบที่ใช้เทคโนโลยี PurePlus
  • Shell Helix HX7 – น้ำมันเครื่องสังเคราะห์ผสมที่มีเทคโนโลยี Active Cleansing Technology
  • Shell Helix HX5 – น้ำมันเครื่องแบบพรีเมียมสำหรับเครื่องยนต์ที่มีการใช้งานหนัก
  • Shell Helix HX3 – น้ำมันเครื่องสำหรับเครื่องยนต์ที่มีการใช้งานเยอะและต้องการการป้องกันพื้นฐาน
  1. Shell Rimula สำหรับรถบรรทุกและอุตสาหกรรมหนัก
  • Shell Rimula R6 – น้ำมันเครื่องสังเคราะห์ที่มีการปรับปรุงเพื่อความทนทานและประสิทธิภาพสูง
  • Shell Rimula R4 X – น้ำมันเครื่องที่มีการผสมของสังเคราะห์และแร่ธาตุเพื่อการป้องกันที่เหนือกว่า
  • Shell Rimula R3 – น้ำมันเครื่องแบบมาตรฐานสำหรับเครื่องยนต์ดีเซล
  1. Shell Advance สำหรับรถจักรยานยนต์
  • Shell Advance Ultra – น้ำมันเครื่องสังเคราะห์เต็มรูปแบบสำหรับรถจักรยานยนต์
  • Shell Advance AX7 – น้ำมันเครื่องสังเคราะห์ผสมสำหรับรถจักรยานยนต์ระดับสูง
  • Shell Advance AX5 – น้ำมันเครื่องแบบพรีเมียมสำหรับรถจักรยานยนต์
  1. น้ำมันเครื่องพิเศษ เป็นผลิตภัณฑ์ที่ถูกออกแบบมาเพื่อรถยนต์ที่ต้องการประสิทธิภาพสูงและการปกป้องเครื่องยนต์ในระดับพรีเมียม
  • Shell Helix Ultra ECT – น้ำมันเครื่องเต็มสังเคราะห์ที่ช่วยลดคาร์บอนสะสมและมีสารเพิ่มคุณภาพเพื่อปกป้องระบบไอเสีย
  • Shell Helix Ultra Racing – น้ำมันเครื่องเต็มสังเคราะห์ที่ออกแบบมาเพื่อรถแข่ง

นอกจากนี้ Shell ยังมีน้ำมันเครื่องที่ออกแบบมาเพื่อ รถที่ใช้งานในสภาวะอุณหภูมิที่หนาวเย็นมาก และรถที่ต้องการน้ำมันเครื่องที่ตรงตามมาตรฐานและข้อกำหนดเฉพาะจากผู้ผลิตรถยนต์ (OEM specifications). การเลือกน้ำมันเครื่องที่เหมาะสมกับรถของคุณสามารถช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพและอายุการใช้งานของเครื่องยนต์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ.น้ำมันเครื่อง SHELL

น้ำมันเครื่อง shell ดียังไง ทำไมต้องเลือก?

  1. คุณภาพและนวัตกรรม: Shell มีชื่อเสียงในเรื่องของการนำเสนอน้ำมันเครื่องที่มีคุณภาพสูงพร้อมนวัตกรรมเช่น PurePlus Technology ซึ่งเป็นเทคโนโลยีการผลิตน้ำมันเครื่องจากก๊าซธรรมชาติที่มีสิทธิบัตรการคุ้มครอง ให้ความสะอาดของเครื่องยนต์และการปกป้องที่เหนือกว่า.
  2. ประสิทธิผลในการลดการสึกหรอ: ผลิตภัณฑ์ของ Shell ได้รับการออกแบบมาเพื่อลดการสึกหรอของเครื่องยนต์ ทำให้ชีวิตการใช้งานของเครื่องยนต์ยืดออกไป.
  3. การประหยัดน้ำมัน: น้ำมันเครื่องที่มีคุณภาพสามารถช่วยให้เครื่องยนต์ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและช่วยลดการบริโภคน้ำมัน ทำให้คุณประหยัดเงินในระยะยาว.
  4. การลดการปล่อยมลพิษ: น้ำมันเครื่องจาก Shell มักจะมีสูตรพิเศษเพื่อช่วยลดการปล่อยมลพิษ เช่น คาร์บอนไดออกไซด์และมลพิษอื่นๆ ที่ออกมาจากรถยนต์.
  5. การยืดอายุเครื่องยนต์: การใช้น้ำมันเครื่องที่มีคุณภาพสามารถช่วยให้เครื่องยนต์ของคุณทำงานได้ดีและมีอายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้น.
  6. การรับรองและความเชื่อมั่น: น้ำมันเครื่อง Shell มักจะได้รับการรับรองจากผู้ผลิตรถยนต์ชั้นนำหลายราย ซึ่งคุณสามารถวางใจได้ว่าน้ำมันเครื่องของคุณจะเหมาะสมกับรถของคุณ.

จอห์น

จอห์นนำความเชี่ยวชาญอันมากมายมาสู่การรีวิวผลิตภัณฑ์ มันรวมข้อมูลเชิงลึกเข้ากับการสนับสนุนผู้บริโภค เป็นเวลาหลายปีที่เขาวิเคราะห์แนวโน้มในหมวดหมู่ต่างๆ ตั้งแต่นวัตกรรมทางเทคโนโลยีไปจนถึงสิ่งสำคัญด้านความงาม ภารกิจของ john คือการชี้แนะผู้อ่านผ่านเสียงอึกทึกของตลาดไปสู่อัญมณีที่รับประกันความสนใจและการลงทุนของพวกเขา.

แชร์โพสต์นี้